จากครั้งก่อนที่ได้เล่าถึงประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าของ Hermes ไปแล้วนั้น วันนี้จะขอมาเล่าต่อ ถึงจุดเริ่มต้นของการทำกระเป๋า ที่ครองใจสาวๆทั่วโลก กันค่ะ
จากร้านทำเครื่องขี่ม้ามาสู่กระเป๋าในฝัน มาไกลขนาดนี้ได้อย่างไรกันนะ…
หลังจากสืบต่อกิจการจากเทียร์รี่ผู้เป็นพ่อ ชาร์ล เอมิล แอร์เมส (Charles Émile Hermès) ได้ทำการสานต่อจนธุรกิจรุ่งโรจน์ โดยเอมิลนั้นเป็นนักออกแบบคนแรกที่ได้ใช้ซิปมาใช้ในวงการแฟชั่น โดยเกิดจากซิปสีทองแวววาวของเสื้อหนังที่ทำถวายเอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์ โดยมีการตั้งชื่อพิเศษเพื่อเป็นเกียรติด้วยว่า “Hermès fastener”
โดยกระเป๋าหนังใบแรกก็ตามมาไม่นาน เมื่อปี 1922 ภรรยาของเอมีลรู้สึกไม่พอใจกระเป๋าใบไหนเลย เอมีลผู้รักภรรยาเลยตั้งใจออกแบบให้เธอ จนกำเนิดกระเป๋าที่เปลี่ยนแปลงโลกใบนี้และพลิกหน้าประวัติศาสตร์ของการผลิตกระเป๋าถือเลยทีเดียว
วันที่ 11 กันยายน ปี 1951 เอมีลเสียชีวิตลงอย่างสงบ โดยก่อนหน้านั้น เขาได้ส่งไม้ต่อการบริหารแบรนด์ให้กับลูกเขยของเขา ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ของแบรนด์เครื่องหนัง Hermes
การพัฒนาของอุตสาหกรรมยานยนตร์ถูกเข้ามาแทนที่การขี่ม้า Hermes จึงได้มุ่งเน้นสายการผลิตไปที่กระเป๋าและเครื่องแต่งกาย โดยปี 1956 Hermes ได้เปิดตัวกระเป๋าถือที่มีชื่อว่า Sac à dépêches โดยกระเป๋าใบนี้ก็คือ Kelly ที่เราเรียกติดปากกันในปัจจุบันนี่แหละค่ะ เรื่องมันมาจากว่า นักแสดงสาว เกรซ เคลลี่ คู่หมั้นของเจ้าชายแรนีแยร์แห่งโมนาโก ได้นำกระเป๋าใบนี้มาบังท้องของเธอไว้ เพื่อปิดข่าวการตั้งครรภ์ หลังจากภาพนั้นถูกตีพิมพ์โดยนิตยสารไลฟ์ ร้าน Hermes แทบแตก! เพราะเหล่าสตรีทั่วโลกต่างพากันมาตามหากระเป๋า โดยเรียกเจ้ากระเป๋าใบนั้นว่า Kelly’s bag ซึ่งทางแบรนด์ก็เปลี่ยนชื่อกระเป๋ารุ่นนั้นเป็น Kelly ซะเลย ไหนๆก็จำกันแบบนี้ไปแล้ว
อีกหนึ่งรุ่นที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นคือ ฌอง-หลุยส์ (Jean Louis Dumas) ทายาทรุ่นที่ 5 ของ Hermes ได้ออกแบบกระเป๋าให้นักแสดงสาว เจน เบอร์กิน (Jane Birkin) ใช่ค่ะ นั่นคือจุดเริ่มต้นของ เบอร์กิ้น โดยทั้งคู่พบกันโดยบังเอิญบนเครื่องบิน ระหว่างไฟล์ ปารีส-ลอนดอน โดยนักแสดงสาวบ่นอุบว่า “มันยากมากเลยนะ ที่จะหากระเป๋าดีๆสำหรับเดินทางวันหยุดซักใบ” และนั่นเอง ฌอง-หลุยส์ ไม่รีรอที่จะออกแบบกระเป๋าให้กับเธอ จนเกิดเป็นรุ่น Birkin ที่แม้เวลาจะผ่านมากี่ปี ก็ยังคงรูปแบบเดิมเป๊ะๆและคงความนิยมตลอดกาล
จุดเด่นของ Hermes ที่ทำให้กระเป๋าทุกใบเป็นที่นิยมนั้น มาจากความพิถีพิถันในการตัดเย็บด้วยช่างฝีมือใบต่อใบ ซึ่งแต่ละคนนั้น จะต้องได้รับการอบรมอย่างน้อย 3 ปี จึงจะได้รับอนุญาตให้ผลิตกระเป๋า เป็นเครื่องการันตีได้ว่ากระเป๋าทุกใบจากผ่านการใส่ใจในทุกขั้นตอนจากช่างผู้เชี่ยวชาญ
แน่นอนว่าแม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงใด การครอบครองกระเป๋า Hermes ซักใบก็ล้วนสร้างคุณค่าทางจิตใจและสร้างมูลค่าให้ผู้ครอบครองเสมอ
หากคุณกำลังมองหากระเป๋าแบรนด์เนมแท้ราคาถูก ทางเราขอแนะนำ Brandnameexchange.net เพราะร้านนี้นั้นขึ้นชื่อเรื่อง กระเป๋า hermes มือ สอง ของ แท้
